หุ้นคืออะไร
หุ้นหรือ share คือ
หลักทรัพย์ที่แสดงความเป็นเจ้าของส่วนหนึ่งในบริษัทราคาหุ้นจะเปลี่ยนแปลงตามผลประกอบการของบริษัทและภาวะตลาด
ผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นมีอะไรบ้าง
ผลตอบแทนจากการลงทุนในหลักทรัพย์มี 2 แบบ
1.กำไรจากส่วนต่างราคา (capital
gain)
2.เงินปันผล (dividend)
โดยหลักการแล้ว นักลงทุนจะได้รับผล ตอบแทนเพิ่มขึ้นตราบใดที่บริษัทมีผลประกอบการที่ดี
และหุ้นมีราคาเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ปัจจัยภายในและภายนอกจะมีผล ต่อความผันผวนของราคาหุ้น
ความเสี่ยง
สำหรับลุงแล้ว ความเสี่ยงเป็นเหมือนความเข้าใจในการลงทุนมากกว่า หลายคนเข้ามาอยู่ในตลาดหุ้นด้วยความรูู้อันน้อยนิด แต่อยากได้ผลตอบแทนออกไปจากตลาดหุ้นอย่างมหาศาล ด้วยความรู้อันน้อยนิดนี่แหละ คือความเสี่ยงมหาศาลที่พร้อมจะโดนลงโทษอยู่ตลอดเวลา ในขณะที่คนที่มีความรู้ในหุ้น ดูกราฟเป็น อ่านผลประกอบการของกิจการเป็น วิเคราะห์แนวโน้มเป็น มีโอกาสน้อยมากที่เขาจะหมดตัวออกไปจากตลาดหุ้นเพราะว่าเขามีทั้งอาวุธที่พร้อมจะต่อสู้ มีโล่ที่พร้อมจะป้องกันสิ่ง และนี่คือการเปรียบเทียบความเสี่ยงในแบบฉบับของลุง
มีคำเตือนให้เตือนในนักลงทุนมาเสมอว่า
“การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน”
“การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน”
เล่นหุ้นยากมั้ย
ลุงอยากให้ผู้อ่านลองนึกถึงความรู้สึกตอนเรากำลังหัดทำอะไรเป็นครั้งแรก หัดอ่านภาษาไทย หัดบวกเลข หัดขับรถ ขัดขี่จักรยาน ลุงขอยกตัวอย่างเรื่องการขี่จักรยานกับการเล่นหุ้นนะ ลองนึกถึงตอนที่เราหัดขี่จักรยานเป็นครั้งแรก เราต้องมีล้อช่วยในการทรงตัว เราต้องมีคนคอยดูแล จนวันนึงเราคิดว่าเราทรงตัวเองได้ เราจึงนำล้อออก จากสี่ล้อเหลือสองล้อ ช่วงแรกแน่นอนว่าเรายังขี่ไม่คล่อง มือยังไม่แข็ง ทรงตัวยังไม่เก่ง เราก็ต้องล้ม ต้องชน ทำให้เรามีแผลถลอกเลือดไหลเป็นธรรมดา แต่เมื่อเราฝึกขี่ไปเรื่องๆ ขี่ไปทุกวันจนเรามีความชำนาญมากขึ้น โอกาสที่เราจะขี่ล้มหรือชนก็มีน้อยลงไป หรืออาจจะไม่เกิดอุบัติเหตุขึ้นอีกเลย
การเล่นหุ้นก็เหมือนกัน เมื่อเราเข้าตลาดมาครั้งแรกเรายังซื้อขายไม่เป็นหรอก ดูกราฟก็ไม่เป็น อ่านงบก็ไม่เป็น คัทลอสก็ไม่เป็น จึงไม่ต้องแปลกใจที่นักลงทุนหน้าใหม่ต้องมีการขาดทุนเป็นธรรมดา แต่ถ้าเราฝึกตีกราฟทุกวัน อ่านงบการเงินทุกวัน วิเคราะห์แนวโน้มทุกวัน นั่นจะทำให้เรา มีความชำนาญมากขึ้น โอกาสขาดทุนของเราก็น้อยลงไป เมื่อมีคนมาถามว่าเล่นหุ้นยากมั้ย
เราก็จะตอบไปได้ทันทีเลยว่า "ไม่ยาก"
เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ แล้วยังอยากเล่นหุ้นอยู่
เลื่อนมาอ่านต่อได้เลยครับ
การเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์
บัญชีซื้อขายหลักทรัพย์มีทั้งหมด 4 แบบ
1. บัญชีเงินสด
2. บัญชีเงินฝาก
3. บัญชี credit balance
4. บัญชีซื้อขายตราสารอนุพันธ์
การเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์นั้น เราต้องเปิดบัญชีกับบริษัทหลักทรัพย์ ( Broker )
ซึ่งมีหน้าที่ในการเป็นตัวกลางในการซื้อขายหุ้นให้กับนักลงทุนนั่นเอง
สำหรับนักลงทุนมือใหม่
ลุงแนะนำให้เปิดบัญชีแบบบัญชีเงินฝาก
เพราะเป็นบัญชีที่นักลงทุนสามารถซื้อหลักทรัพย์ได้เท่ากับจำนวนเงินที่นำมาฝากไว้กับทางโบรกเกอร์ก่อนการซื้อหลักทรัพย์ ซึ่งลุงคิดว่ามันจะมีความปลอดภัยต่อตัวนักลงทุนเอง เวลาขาดทุน ก็ขาดทุนได้เท่ากับจำนวนเงินที่มีในบัญชี ไม่มากไปกว่านี้แน่นอนจ้า
วิธีเลือกโบรคเกอร์ ดูจากสิ่งต่อไปนี้นะครับ
1. บทวิเคราะห์
2. ระบบการซื้อขาย
3. ค่าคอมมิสชั่นขั้นต่ำ ( บางที่จะมีขึ้นต่ำ 50 บาท/วัน )
4. สถานที่ติดต่อ
ข้อมูลการเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ ให้เข้าไปดูที่ลิงค์ข้างล่างได้เลย
ข้อมูลเกี่ยวกับการเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์
การเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์
บัญชีซื้อขายหลักทรัพย์มีทั้งหมด 4 แบบ
1. บัญชีเงินสด
2. บัญชีเงินฝาก
3. บัญชี credit balance
4. บัญชีซื้อขายตราสารอนุพันธ์
การเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์นั้น เราต้องเปิดบัญชีกับบริษัทหลักทรัพย์ ( Broker )
ซึ่งมีหน้าที่ในการเป็นตัวกลางในการซื้อขายหุ้นให้กับนักลงทุนนั่นเอง
สำหรับนักลงทุนมือใหม่
ลุงแนะนำให้เปิดบัญชีแบบบัญชีเงินฝาก
เพราะเป็นบัญชีที่นักลงทุนสามารถซื้อหลักทรัพย์ได้เท่ากับจำนวนเงินที่นำมาฝากไว้กับทางโบรกเกอร์ก่อนการซื้อหลักทรัพย์ ซึ่งลุงคิดว่ามันจะมีความปลอดภัยต่อตัวนักลงทุนเอง เวลาขาดทุน ก็ขาดทุนได้เท่ากับจำนวนเงินที่มีในบัญชี ไม่มากไปกว่านี้แน่นอนจ้า
วิธีเลือกโบรคเกอร์ ดูจากสิ่งต่อไปนี้นะครับ
1. บทวิเคราะห์
2. ระบบการซื้อขาย
3. ค่าคอมมิสชั่นขั้นต่ำ ( บางที่จะมีขึ้นต่ำ 50 บาท/วัน )
4. สถานที่ติดต่อ
ข้อมูลการเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ ให้เข้าไปดูที่ลิงค์ข้างล่างได้เลย
ข้อมูลเกี่ยวกับการเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์
เพิ่มเติมจากลุงแฉล้ม
เคยสงสัยกันรึเปล่าว่าทำไมถึงมีทั้งคนที่รวยจากตลาดหุ้น และคนที่เจ๊งตลาดหุ้นจนถึงขึ้นฆ่าตัวตาย
คนสองประเภทนี้ต่างกันโดยสิ้นเชิงทั้งวิธีคิดและวิธีการเล่น มีคนถึง 80% ที่ต้องขาดทุนจนต้องออกจากตลาดไป ในขณะที่อีก 20% เป็นผู้ที่ได้กำไรและอยู่รอด ลุงอยากจะบอกว่าตลาดหุ้นมันไม่ได้ง่ายอย่างที่ใครๆคิด อยากได้เงินมันก็ต้องลงทุนลงแรกกันหน่อย ความรู้เท่านั้นที่จะทำให้เราอยู่รอด ใครดูกราฟไม่เป็น อ่านงบไม่เป็น เอาแต่ลอกหุ้นคนอื่น เล่นตามบทวิเคราะห์หรือแม้แต่ขี้เกียจหาความรู้เพิ่มเติม ลุงบอกไว้เลยว่า ฝากเงินไว้ในธนาคารนั้นแหละ ถ้าอยากได้เงินจากการเล่นหุ้น ก็ต้องมีความรู้ให้เหมาะสมกับจำนวนเงินที่อยากได้ครับ
www.set.or.th
www.settrade.com
www.facebook.com/StockTrader.Club
www.facebook.com/stockmanday
www.facebook.com/I2invest
www.facebook.com/PLAYSAFEnTAKEPROFIT
www.facebook.com/SelectHoonthai
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น